เผยแพร่ผลงาน
- รายละเอียด
- ฮิต: 1043
แบบฝึกวอลเลย์บอล
จัดทำโดยครูสุมาตรา เสนา โรงเรียนชุมชนบ้านโต้นศรีพิมลวิทยา
1. การฝึกเสิร์ฟบอล (Serving Drills)
- วัตถุประสงค์: พัฒนาความแม่นยำและกำลังในการเสิร์ฟ
- รายละเอียด: แบ่งกลุ่มผู้เล่นออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มฝึกการเสิร์ฟบอลให้ข้ามไปยังพื้นที่ที่กำหนด เช่น เสิร์ฟไปยังเส้นแนวกลางของสนาม หรือเสิร์ฟให้บอลลงที่ตำแหน่งที่กำหนด
2. การฝึกรับลูกเสิร์ฟ (Receiving Drills)
- วัตถุประสงค์: พัฒนาทักษะการรับลูกและการควบคุมบอล
- รายละเอียด: ให้ผู้เล่นฝึกการรับลูกเสิร์ฟจากเพื่อนร่วมทีม โดยต้องทำการส่งบอลต่อไปยังตำแหน่งเซ็ตเตอร์ด้วยการส่งแบบแม่นยำ
3. การฝึกตั้งบอล (Setting Drills)
- วัตถุประสงค์: ฝึกทักษะการตั้งบอลให้ได้ตำแหน่งและจังหวะที่ถูกต้อง
- รายละเอียด: ผู้เล่นทำการตั้งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมที่กำลังจะทำการตบ โดยฝึกการตั้งบอลให้แม่นยำในตำแหน่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
4. การฝึกตบบอล (Spiking Drills)
- วัตถุประสงค์: ฝึกทักษะการตบบอลและการใช้แรงตบอย่างมีประสิทธิภาพ
- รายละเอียด: ผู้เล่นฝึกการตบบอลจากการตั้งบอลของเพื่อนร่วมทีม พยายามตบบอลให้ลงพื้นที่เป้าหมายในสนามของฝ่ายตรงข้าม
5. การฝึกการบล็อก (Blocking Drills)
- วัตถุประสงค์: ฝึกการบล็อกบอลจากการตบของฝ่ายตรงข้าม
- รายละเอียด: ผู้เล่นฝึกการกระโดดบล็อกบอลในตำแหน่งที่ถูกต้อง และทำการบล็อกในจังหวะที่เหมาะสม
6. การฝึกเล่นทีม (Team Play Drills)
- วัตถุประสงค์: ฝึกการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารในระหว่างการแข่งขัน
- รายละเอียด: จำลองสถานการณ์การแข่งขัน โดยเน้นการสื่อสาร การเคลื่อนที่ในสนาม และการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เล่นในทีม
- รายละเอียด
- ฮิต: 91
บทสรุปผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice)
ชื่อผลงาน หนังสั้นศรีพิมลปลูกคนสุจริต
ชื่อเจ้าของผลงาน นางสาวนันท์ธีมา คงนาวัง
ตำแหน่ง ครู
ชื่อสถานศึกษา/หน่วยงาน โรงเรียนชุมชนบ้านโต้นศรีพิมลวิทยา
สังกัด สพป. ขอนแก่น เขต 1
- ความเป็นมาและความสำคัญของนวัตกรรม
ปัจจุบันการปลูกฝังคุณธรรมพื้นฐานอย่าง "ความสุจริต" เป็นสิ่งจำเป็นต่อเยาวชน โรงเรียนพบว่านักเรียนยังขาดพฤติกรรมสะท้อนความซื่อสัตย์ เช่น ไม่ยอมรับผิด ลอกงาน ขาดจิตสาธารณะ ด้วยเหตุนี้ครูจึงได้นำ “ภาพยนตร์สั้น” ที่ผลิตโดยครูและนักเรียนในโรงเรียน มาใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมคุณลักษณะ
ตามแนวทาง “โรงเรียนสุจริต” ได้แก่
- ทักษะกระบวนการคิด
- มีวินัย
- ซื่อสัตย์สุจริต
- อยู่อย่างพอเพียง
- จิตสาธารณะ
โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning และ Collaborative Learning รวม 20 ชั่วโมง ในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้น ป.4–6
- แนวคิดและรูปแบบการจัดการเรียนรู้
นวัตกรรมนี้มีรากฐานจากทฤษฎีหลากหลาย ได้แก่
- Observational Learning (Bandura) เรียนรู้ผ่านการดูแบบอย่าง
- Constructivism (Piaget, Vygotsky) สร้างความรู้จากประสบการณ์จริง
- Collaborative Learning (Johnson & Johnson) เรียนรู้ร่วมกันเสริมทักษะสื่อสารและจริยธรรม
- Film-Based Learning (UNESCO) ใช้ภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง
กิจกรรมที่ใช้ ได้แก่ ใบงาน 5W1H, กระดาษบรู๊ฟ, โปสต์การ์ด และการนำเสนอผลงานกลุ่ม เพื่อฝึกคิด วิเคราะห์ สะท้อน และส่งต่อคุณธรรมสู่ชุมชน
- วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
วัตถุประสงค์
- ส่งเสริมคุณลักษณะตามแนวทางโรงเรียนสุจริต
- พัฒนาทักษะคิดวิเคราะห์ สื่อสาร ทำงานเป็นทีม
- สร้างความตระหนักในคุณธรรม
- ส่งเสริมการใช้สื่อภาพยนตร์ของโรงเรียนให้ยั่งยืน
เป้าหมาย
- ปริมาณ นักเรียนชั้น ป.4–6 จำนวน 58 คน เข้าร่วมครบทุกกิจกรรม
- คุณภาพ นักเรียนแสดงพฤติกรรมสอดคล้องกับคุณลักษณะโรงเรียนสุจริต ร้อยละ 95 ขึ้นไป
- กระบวนการดำเนินงาน
ระยะ |
รายละเอียด |
1. วางแผน |
ศึกษาบริบท ออกแบบกิจกรรม เลือกภาพยนตร์ |
2. จัดกิจกรรม |
รับชม–คิดวิเคราะห์–ทำใบงาน–นำเสนอ |
3. เผยแพร่ |
นิทรรศการ / Facebook / YouTube |
4. ประเมินผล |
ประเมินพฤติกรรม ใบงาน และเจตคติ |
งบประมาณ ไม่เกิน 3,000 บาท/ปี
- ผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ
- นักเรียน ร้อยละ 100 แสดงพฤติกรรมที่ดีขึ้น เช่น ยอมรับผิด มีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออก
- ผลงานนักเรียนสะท้อนแนวคิดคุณธรรมอย่างสร้างสรรค์
- ครูใช้ภาพยนตร์สั้นเป็นเครื่องมือสอนในวงกว้าง
- กิจกรรมได้รับการเผยแพร่ในงานนิทรรศการและช่องทางออนไลน์
- ปัจจัยความสำเร็จ
- ผู้อำนวยการ สนับสนุนเชิงนโยบาย
- ครูและนักเรียน มีส่วนร่วมออกแบบและจัดกิจกรรม
- ผู้ปกครอง–ชุมชน ร่วมกิจกรรม “Open House”
- การใช้สื่อที่ผลิตเอง ทำให้ใกล้ตัว เชื่อมโยงบริบทของผู้เรียน
- การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของผลงาน
- บทเรียนที่ได้รับ
- สื่อการเรียนรู้ควรสอดคล้องกับบริบทของนักเรียน
- Active Learning ส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะคิดวิเคราะห์-สื่อสาร-ร่วมมือดีขึ้น
- การเผยแพร่ผลงานสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมจากครอบครัวและชุมชน
ข้อควรระวัง
- ควรเลือกภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับวัย
- ครูต้องมีทักษะในการตั้งคำถามและกระตุ้นการสะท้อนคิด
- การเผยแพร่และรางวัลที่ได้รับ
- เผยแพร่ผ่าน Facebook, YouTube, เว็บไซต์โรงเรียน
- ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองจากงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน และรางวัล “ครุชนคนคุณธรรม” ปี 2567
- รายละเอียด
- ฮิต: 1010
- รายละเอียด
- ฮิต: 978
ชื่อเรื่อง: ผลงานดีเด่นด้าน Coding “CODING Achievement Awards” ครั้งที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖
ประเภทผู้บริหาร
ผู้จัดทำ: นายสุริยา ฤาชากูล ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านโต้นศรีพิมลวิทยา สพป. ขอนแก่น เขต 1
สรุปเนื้อหาตามหัวข้อ:
-
ความสำคัญของผลงาน:
- การเรียนรู้โค้ดดิ้งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชุมชน โรงเรียนจึงพัฒนานวัตกรรมที่เชื่อมโยงการทอเสื่อด้วยโค้ดดิ้ง เพื่อสร้างความรู้และส่งเสริมการพัฒนาในชุมชน
-
วัตถุประสงค์:
- เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้โค้ดดิ้งของนักเรียนและสร้างคุณค่าในชุมชนผ่านการประยุกต์ใช้โค้ดดิ้งในการทอเสื่อ
- เพื่อให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาและสร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่าในชุมชนได้
-
กระบวนการผลิตผลงาน:
- นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบผ่านการเรียนรู้โค้ดดิ้งในโปรแกรม Scratch โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้กระบวนการทอเสื่อและการสร้างลายเสื่อผ่านการเขียนโค้ด นอกจากนี้ นักเรียนยังมีโอกาสนำความรู้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ในชุมชน เช่น การทอเสื่อที่มีคุณภาพและการนำเสนอผลงานในงานนิทรรศการ
-
ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์:
- นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา รวมถึงการทำงานเป็นทีม ผลลัพธ์จากการจัดการเรียนการสอนโค้ดดิ้งส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลในระดับชาติ และสามารถนำทักษะที่ได้ไปใช้ในชีวิตจริง
-
ประโยชน์ที่ได้รับ:
- สร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่างโรงเรียนและชุมชน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในชุมชน และเพิ่มความมั่นใจให้นักเรียนในการใช้โค้ดดิ้งเพื่อสร้างคุณค่าในสังคม
-
ปัจจัยความสำเร็จ:
- การสนับสนุนจากผู้บริหารโรงเรียนและชุมชน การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของครูในการสอนโค้ดดิ้ง การจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณที่เพียงพอสำหรับกิจกรรมการเรียนการสอนโค้ดดิ้ง
-
บทเรียนที่ได้รับ การปรับปรุง/พัฒนาต่อยอด:
- นักเรียนสามารถใช้ทักษะโค้ดดิ้งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าในชุมชน และมีการต่อยอดนวัตกรรมการเรียนการสอนโค้ดดิ้งไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
-
การเผยแพร่:
- ผลงานได้รับการเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น YouTube, Facebook, และเว็บไซต์ของโรงเรียน รวมถึงการนำเสนอผลงานในงานนิทรรศการต่าง ๆ
-
การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ:
- นักเรียนและครูได้รับรางวัลในระดับชาติจากการแข่งขันด้านโค้ดดิ้งและการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ
- รายละเอียด
- ฮิต: 978
ชื่อผลงาน: รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านการคิดแก้ปัญหา โดยใช้ POONSB Model (พูลทรัพย์โมเดล) ในวิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้จัดทำ: นายพูลทรัพย์ หารพะยอม โรงเรียนชุมชนบ้านโต้นศรีพิมลวิทยา สพป. ขอนแก่น เขต 1
สรุปเนื้อหา:
- ความสำคัญ: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะคิดแก้ปัญหาและการคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและชุมชน
- วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหาและทักษะการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยมีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 ขึ้นไป และมีความพึงพอใจในระดับดี
- กระบวนการ: ใช้ POONSB Model ซึ่งประกอบด้วย 6 ขั้นตอน และดำเนินการตามวงจร PDCA
- ผลลัพธ์: นักเรียนพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาและมีผลการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนร้อยละ 90.07 มีความพึงพอใจในระดับดีมาก
- ประโยชน์: นักเรียนพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และได้รับประสบการณ์การลงมือปฏิบัติจริง
- ปัจจัยความสำเร็จ: ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและชุมชน ครูมีความรู้และได้รับรางวัลระดับชาติ
- บทเรียน: นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มได้ดีและพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา
- การเผยแพร่: ผ่าน YouTube, Facebook, และเว็บไซต์โรงเรียน
- รางวัล: ครูและนักเรียนได้รับรางวัลระดับชาติในด้านภาพยนตร์สั้นและโค้ดดิ้ง